วันพุธที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2551

วันแห่งความรัก


วันแห่งความรัก:
คุณค่าและความหมายที่แท้จริง

วันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ของทุกปี กลายเป็นวันสำคัญวันหนึ่งของคนหนุ่มสาวโดยเฉพาะวัยรุ่น ต่างเฝ้ารอวันนี้เป็นพิเศษ ทั้งที่บางคนไม่ทราบความหมายที่แท้จริง หลายคนคิดว่าวันแห่งความรัก หรือวันวาเลนไทน์ (Valentine Day) เป็นวัฒนธรรมของชาติไทย เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะยุคแรกของวัน วาเลนไทน์ที่เป็นวัฒนธรรมตะวันตกได้แพร่เข้ามาในสังคมไทย เด็กวัยรุ่นและหนุ่มสาวที่ชื่นชอบในยุคนี้ยังไม่เกิดหรือเกิดทันก็ยังเป็นเด็ก เมื่อเริ่มโตพวกเขารับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับความรักในวันวาเลนไทน์ ว่าต้องมีการมอบของ ที่ระลึกให้คนที่ตนรัก เช่น ช็อกโกแลต การ์ดอวยพร ดอกกุหลาบสีแดงและอื่น ๆ จากสื่อทางวิทยุ โทรทัศน์ ที่นำเสนอและประโคมเรื่องนี้ทุกปี
ในอดีตประเทศไทยรับวัฒนธรรมของชาติอื่น เช่น อาหาร-ขนม-การแต่งกาย ฯลฯ เข้ามาในสังคมเสมอ มีการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสังคมไทยอย่างเหมาะสมจนในที่สุดกลายเป็นวัฒนธรรมไทย เพราะคนไทยในอดีตใช้ปัญญาที่จะเลือกรับเอาแต่สิ่งดี ๆ ที่เป็นวัฒนธรรมชนชาติอื่นปรับมารับใช้วิถีชีวิตของคนในสังคมไทยมาตลอด
เหตุนี้แทนที่เราจะปล่อยให้คนไทยในสังคมรับวัฒนธรรมของชาติอื่นอย่างไม่รู้จักแยกแยะ คนไทยควรจะมีสติพิจารณาหาความหมายและคุณค่ามาปรับประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับวิถีชีวิตไทย เพื่อให้สังคมไทยเป็นสังคมที่พัฒนาอย่างยั่งยืน อย่างเช่นวันแห่งความรัก หรือวันวาเลนไทน์ เยาวชนคนหนุ่มสาวเคยประพฤติตามกันไปโดยหารู้ความหมายที่แท้จริงไม่ ส่วนใหญ่จะคิดถึงความรักของหนุ่มสาว ทั้งที่ความหมายที่แท้จริงของชาวตะวันตกในเรื่องนี้เป็นวันระลึกถึงเซนต์วาเลนไทน์ที่มีต่อความรัก ความศรัทธาต่อศาสนาคริสต์ เพื่อนมนุษย์ ครอบครัว สังคม และประเทศชาติ มิใช่เป็นเพียงความรักระหว่างเพศ ที่เป็นความรักฉันท์ชู้สาวเพียงประการเดียวดังที่เข้าใจ ตามตำนานในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ ๓ อาณาจักรโรมันโบราณกำลังเรืองอำนาจอยู่เป็นยุคของจักรพรรดิ คลอดิอุสที่ ๒ นิยมทำการสงครามกับอาณาจักรใกล้เคียง มีการเกณฑ์ประชาชนเข้าเป็นทหารแต่ละครั้งเป็นจำนวนมาก เมื่อสิ้นสุดการรบต้องสูญเสียชีวิตของทหารมากมาย ทำให้ประชาชนเกิดความขัดแย้งกับจักรพรรดิคลอดิอุส เนื่องจากไม่ต้องการจะจากครอบครัวและคนรักเพื่อไปสู่สนามรบ ต่อมาจึงมีการต่อต้านการทำสงครามโดยมี บาทหลวงวาเลนไทน์ หรือ เซนต์ วาเลนไทน์ (Saint Valentine) นักบวชในศาสนาคริสต์ เป็นผู้นำเพื่อคัดค้านการออกกฎหมายบังคับให้ประชาชนออกทำสงคราม จักรพรรดิคลอดิอุสจึงแก้เผ็ดด้วยการออกกฎหมายห้ามไม่ให้หนุ่มสาวชาวโรมันมีความรักทำให้ต้องห่วงหน้าพะวงหลังและไม่มีข้ออ้างที่จะไม่ยอมออกสงคราม ทำให้ประชาชนลุกฮือต่อต้านเป็นอย่างมาก จักรพรรดิคลอดิอุสสั่งฆ่าทุกคนที่ขัดขวางและสั่งจับตัวเซนต์วาเลนไทน์ไปขังคุกและโบยตีก่อนตัดสินประหารชีวิตด้วยการนำไปตัดศีรษะ เมื่อวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ค.ศ. ๒๗๐ กระทั่งชาวโรมันยกย่องให้เป็นนักบุญ (Saint) หรือเทพเจ้าแห่งความรัก
ดังนั้นวันแห่งความรัก ควรจะเป็นวันที่เป็นตัวแทนของความรัก ความปรารถนาดี และความมีน้ำใจไมตรีต่อเพื่อนมนุษย์อย่างแท้จริง อย่าปล่อยโอกาสให้คนบางกลุ่มฉวยโอกาสปั่นราคาดอกกุหลาบสีแดงและสีอื่น ๆ จากดอกละเพียง ๕-๑๐ บาท พุ่งเป็นดอกละหลายสิบบาท บางสถานที่ดอกละเกือบสามร้อยบาทก็มี เพราะเป็นเรื่องของความต้องการ ทำไมเราไม่ประยุกต์ใช้ดอกไม้อื่นที่มีความหมายแทน เช่น พวงมาลัยดอกมะลิ ดอกรัก ดอกบานชื่น ดอกบานไม่รู้โรย ดอกพุทธรักษา ดอกกล้วยไม้ หรือการ์ดที่เราทำขึ้นเอง หรือเพียงแต่ยกหูโทรศัพท์ถามสุข-ทุกข์ เป็นการมอบความรักความห่วงใยให้แก่กันแทนที่จะมอบการ์ดจากต่างประเทศราคาแพง หรือให้ช็อกโกแลต ทำให้ประเทศชาติเสียเปรียบดุลการค้าเพิ่มขึ้น
โดยเฉพาะปัจจุบันวัยรุ่นของไทยบางกลุ่มหันไปหลงแสงสีเสียง ตามแหล่งเริงรมย์ที่เปิดอยู่กลาดเกลื่อนทั่วกรุงเทพฯ เมื่อถึงวันแห่งความรักจะนัดรวมกลุ่มฉลองวันดังกล่าวตามสถานที่เริงรมย์ ซึ่งไม่ได้กวดขันเรื่องอายุ มีการจำหน่ายและดื่มแอลกอฮอล์ เมื่อเมาถึงระดับหนึ่งก็ขาดสติที่ยังยั้งใจ ที่สุดเรื่องเพศและยาเสพติดเป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาสังคมตามมาอย่างที่ปรากฏให้เห็นตามหน้าหนังสือพิมพ์ทุกปี
ถึงเวลาแล้วที่พวกเราคนไทยควรหันมาเอาใจใส่ต่อตนเอง และบุตรหลานเพื่อให้กรอบความคิดถูกต้องตามหลักจารีตนิยมที่ดีงามหาคุณค่าและความหมายทางวัฒนธรรม ประเพณีต่าง ๆ เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องแล้วนำมาประพฤติปฏิบัติให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองและสังคมไทย แสดงออกทางวุฒิภาวะอย่างแท้จริงให้สมกับที่เป็นวันแห่งความรักที่พวกเรารับมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของคนไทยทุกปีไปแล้ว

---------------------------------------------------------














ไม่มีความคิดเห็น:

ดวงดีดอทคอม เวปใหม่