วันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ความรัก


ความรักเหมือนโรคา...........บันดาลตาให้มืดมนไม่ยินและไม่ยล..................อุปสรรคใดใดความรักเหมือนโคถึก..........กำลังคึกผิขังไว้ก็โลดจากคอกไป................บ่ยอมอยู่ ณ ที่ขังถึงหากจะผูกไว้...................ก็ดึงไปด้วยกำลังยิ่งห้ามก็ยิ่งคลั่ง..................บ่หวนคิดถึงเจ็บกาย บทร้อยกรองข้างต้นนี้ นำมาจาก มัทนะพาธา ที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้น เมื่อปี 2466 ครับ
มัทนะพาธา หรือ ตำนานแห่งดอกกุหลาบ เป็นบทละครพูด
ใช้ฉันทลักษณ์ ในรูปแบบ คำฉันท์ และได้รับการยกย่องจากวรรณคดีสโมสร ให้เป็นหนังสือที่แต่งดี
มัทนา มาจากศัพท์ มทน แปลว่า ความลุ่มหลง หรือ ความรัก
มัทนะพาธา มีความหมายถึงความเจ็บปวด และความเดือดร้อนเพราะความรัก
แหะ แหะ วันนี้ ขออนุญาตพูดถึงเรื่อง ความรัก ในแง่มุมของ ความเจ็บปวด และ ความเดือดร้อน เพราะ ความรัก ครับ
มีคนจำนวนไม่น้อยครับ ที่รู้สึก เจ็บปวด และ เดือดร้อน กับ ความรัก
เมื่อยาม เริ่มรัก ก็เจ็บปวดกับความรัก ที่ตัวเราเอง อยากได้-อยากมี
เมื่อรักเขา ก็อยากรู้ว่า เขาจะรักเราไหม
แล้วก็เดือดร้อน จนยอมให้ทุกอย่าง ทำได้ทุกๆ อย่าง เพื่อให้ได้รัก ตอบแทนกลับคืนมา
ใครจะพูดอะไร ห้ามอะไร ก็ไม่ได้เห็น ไม่ได้ยิน คล้ายๆ กับว่า ความรักมันบังตา-บังใจ ไปเสียทั้งหมดแหละครับ
แล้วจาก เริ่มรัก ก็มาสู่การเป็น คู่รัก ที่ต้อง เรียนรู้รัก ระหว่างกันและกัน
คู่รัก ที่อยู่ในขั้นตอนนี้ ก็ยัง เจ็บปวด และ เดือดร้อน กับ ความรัก อีกแหละครับ
ความจริงก็คือ มี คู่รัก จำนวนไม่น้อย ที่มีความสุข กับ ชีวิตคู่ ของคนสองคน โดยการ เรียนรู้ความแตกต่าง ระหว่างกัน และปรับเข้าหากัน ด้วยความเข้าใจ หรือพยายามจะเข้าใจ
แต่ก็มี คู่รัก อีกจำนวนไม่น้อย ที่ไม่ได้เป็นเช่นนั้น
คู่รัก บางคู่ ใช้ ชีวิตคู่ ด้วยความหวาดระแวง โดยมีตัวเอง เป็นศูนย์กลางของความเชื่อ
คิดจากตัวเอง สรุปจากตัวเอง และก็ เป็นเรื่อง ได้จากตัวเอง
จากเริ่มต้น ที่ยอมทำอะไรก็ได้ เพื่อให้ได้รักนั้นตอบแทน ก็อาจกลายเป็นการเรียกร้อง เพื่อให้เขา (หรือเธอ) ทำกลับมาให้แก่ตัวเอง
จากที่เคยใช้ เหตุและผล ตาม เหตุผล ก็กลายเป็นเรื่องของ เหตุและผล ตาม อารมณ์
ประมาณว่า อารมณ์ดี ก็มีเหตุและผลที่รักกันดี แต่เมื่ออารมณ์ไม่ดี ไม่ได้ดั่งใจ ก็ฟูมฟายหาเรื่อง ถามกันเสียง่าย ว่า ไม่รักกันแล้วหรือไร หมดรักกันแล้วใช่ไหม
แล้วก็แปลกที่เมื่อ เป็นเรื่อง ขึ้น คู่รัก มักไม่นึกถึงสิ่งดีๆ ที่มีร่วมกันมากมายเสียด้วย
ต้องอย่าลืมครับว่า การใช้ ชีวิตคู่ ต้องมี สติ และ เรียนรู้รัก กับ คู่รัก ด้วย สติ
การขาดสติ ทำให้ตัวเรา กับ คู่รัก ของเรา เจ็บปวดกับความรักได้เสมอครับ

เนื้อคู่



ความหมายของคำว่า " เนื้อคู่ " ขออนุญาตให้ความหมายของคำว่า " เนื้อคู่ " ในมุมมองของผมสำหรับท่านที่เข้ามาดูดวงครับ คำว่า " เนื้อคู่ " หลายคนจะให้ความหมายว่าคือคนที่จะได้แต่งงานออกหน้าออกตาด้วย (ทั้งจดทะเบียนสมรส หรือ ไม่จดทะเบียนสมรสก็ตาม) หรือได้ใช้ชีวิตร่วมกัน หรือ เป็นคนที่ส่งเสริม อุปถัมภ์ซึ่งกันและกัน เคยสังเกตไหมครับว่า ช่วงชีวิตหนึ่งของคนเรานั้นมีคนเดินเข้ามาในชีวิตมากมายหลายคน บางคนเข้ามา 1 ปีแล้วก็เลิกกัน บางคนคบกัน 6 เดือนแล้วเค้าก็จากเราไป บางคนเจอกันแค่อาทิตย์เดียวแล้วเราก็ทิ้งเค้าไปเอง บางทีคุณก็คบหาคนรู้ใจในเวลาเดียวกันถึง 3 คน บางคนแต่งงานกันมาแล้ว 20 ปีก็เลิกกัน ไปแต่งงานอีกทีตอนอายุ 70 ปีอยู่กินกันกับคนใหม่ได้แค่ 2 ปีแล้วก็ล้มหายตายจากกันไป นี่เป็นตัวอย่างคร่าว ๆ ที่อยากให้ลองคิดตามครับ คิดออกหรือยังครับว่าคำว่าเนื้อคู่มันอยู่ตรงไหน * ในมุมมองของผมแล้วคำว่าเนื้อคู่ " ไม่มีครับ " มีแต่คำว่า " กรรม " ทั้งกรรมดี และ กรรมไม่ดี บางคนทำกรรมดีกันมาในอดีต ในภพ ในชาติที่แล้ว ช่วงประจวบเหมาะได้มาเจอกันในภพในชาตินี้ ก็อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ตามกรรมของตัวเองเป็นตัวกำหนดว่าจะได้อยู่กันนานแค่ไหน บางคนอยู่ด้วยกันก็มีแต่เรื่องทะเลาะเบาะแว้ง มีแต่เรื่องเดือดร้อนแต่ทนอยู่กันได้หลายปี นั่นก็เกิดจากกรรมในอดีตแต่เป็นกรรมไม่ดีต่อกัน ภพนี้ชาตินี้จึงต้องมาชดใช้กรรมซึ่งกันและกัน ที่เขียนมาทั้งหมดนี้พอจะสรุปคำว่าเนื้อคู่ ( ของหนุ่มสาวยุคนี้ ) ได้ดังนี้ครับ ความหมายที่ 1 คือ คนที่มีกรรมดีต่อกันในอดีต ภพนี้ ชาตินี้กลับมาเพื่อการอิ่มเอิบใจซึ่งกันและกัน ดูแล้วน่าจะใกล้เคียงกับ คำว่า เนื้อคู่ที่หลาย ๆ คนถามหามากที่สุด ส่วนจะเจอเมื่อไร ได้อยู่ร่วมกันนานแค่ไหนขึ้นอยู่กับช่วงเวลาของกรรมในอดีตเป็นตัวกำหนด ความหมายที่ 2 คือ คนที่มีกรรมไม่ดีต่อกันในอดีต ภพนี้ ชาตินี้จึงกลับมาเพื่อทวงคืน เพื่อชำระหนี้ จะสังเกตว่าคู่ประเภทนี้อยู่ด้วยกันแล้วมีแต่เรื่องเดือดร้อน ทำอะไรก็ไม่ขึ้น มีแต่เรื่องเสียเงิน เสียใจ เสียเวลา เสียความรู้สึก แต่คนเรามักจะคิดว่าคนประเภทนี้ไม่ใช่คู่เรา เป็นที่มาของคำถามว่า " เมื่อไรจะเจอคู่ซะที " ซึ่งที่จริงแล้วคนที่เผชิญอยู่ในความหมายที่ 2 นี่แหละก็คือคู่เหมือนกัน แต่เป็นคู่เวรคู่กรรม ดังนั้น ผมบอกได้เลยว่าในช่วงชีวิตหนึ่งของเราทุกคนเราจะได้พบกับเพศตรงข้าม หรือ แม้แต่เพศเดียวกัน ในลักษณะคู่รัก ไม่น้อยกว่า 1 คนในช่วงชีวิตนี้ก่อนสิ้นอายุขัยแน่นอน แล้วจะไปแคร์อะไรละครับ ถึงเวลาคนดี ๆ ที่เราตามหาเค้าจะมาเอง ในทำนองเดียวกันไอ้คนที่ไม่ได้เรื่อง ไม่ได้ดั่งใจแต่ต้องทนคบอยู่ทุกวันนี้สักวันเมื่อชดใช้กันหมดแล้ว เค้าก็จะไปเอง ช่วงสูญญากาศที่ยังไม่มีใครมาเชื่อมต่อละมั้งที่ทำให้หลายคนวิตกกังวลจึง เป็นที่มาของคำถามว่า เมื่อไรจะเจอ คำแนะนำในยามที่คบหาใครอยู่ ไม่ว่าเค้าจะดี หรือไม่ดี ขอให้ตัวคุณทำดีต่อเค้าให้มากที่สุดเพราะเค้าจะไม่ได้มาวุ่นวายกับเราตลอดไป หรอกครับ อย่างน้อยกรรมดีที่มีต่อกันในวันนี้จะส่งผลให้คุณได้อิ่มเอิบในวันข้างหน้าได้ ในทางกลับกัน ถ้าได้เจอใครที่เรารู้สึกดี รู้สึกรัก รู้สึกห่วงใยเค้า รู้สึกคิดถึงเค้าตลอดเวลาแล้วละก็ รักเค้าให้สุดแรงเกิดครับ ไม่ต้องกังวลว่าวันหนึ่งอาจจะต้องผิดหวัง เพราะถึงแม้จะไม่มีอะไรมาพรากคุณและเค้าก็ตาม อย่างน้อยความตายก็เตรียมพลัดพรากคุณและเค้าในวันหนึ่งอยู่แล้ว ขอให้ทุกท่านฉลาดที่จะใช้ชีวิตคู่และรู้เท่าทัน..

วันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2551

เราจะดูมือซ้ายหรือขวาดี






มีความเข้าใจผิดประการหนึ่ง ที่มักได้ยินเสมอๆ เวลาเราดูดวงด้วยลายมือ คือเรามักสงสัยว่าเราควรจะยื่นมือซ้ายหรือขวาให้หมอดู เรื่องมือซ้ายหรือขวานี้ เชื่อกันว่า “ มือซ้ายคือสิ่งที่ติดตัวมาแต่กำเนิด หรือเป็นบุพกรรมแต่ชาติปางก่อน ส่วนมือขวานั้น เป็นสิ่งที่เจ้าของมือสร้างขึ้น “ สำหรับผู้เขียนแล้ว ความเชื่อเหล่านี้เป็นสิ่งที่ไร้เหตุผลที่สุด เวลาที่ผู้เขียนเดินไปตามห้างสรรพสินค้า หรือที่ใดๆ ก็ตามที่มีการเปิด ดูลายมือโดยหมอดู เขามักจะติดป้ายราคา ว่า 59 บาท บางที่ ถูกถึงขนาด 29 บาทเลยก็มี ผู้เขียนหงุดหงิดเพราะว่าความรู้จากลายมือนี้ไม่ได้แตกต่างจาก ศาสตร์ด้านอื่น หากท่านศึกษาอย่างจริงจังถ่องแท้ การเรียนเรื่องการอ่านลายมือ เป็นวิชาที่ยากที่สุด ผู้ที่จะมีเรียนจักต้องมีพรสรรค์ในด้านการมอง และการดูลายมือ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือแสง ผู้ที่เอาความรู้ในเรื่องการพยากรณ์ลายมือไป หากิน อาจคิดว่าง่าย มีสามเส้นให้มอง แต่ความจริงการดูมองมีมากกว่า ครรลองแห่งเส้นชีวิตที่เราท่านรู้จักกัน มันบอกถึง ขนาดของอวัยวะเพศ รสนิยมทางเพศ ความคิด และความกลัวที่มีในจิตใจ







ในเรื่องการดูมือซ้ายหรือมือขวานั้น นักพยากรณ์บางคน ที่เรียนรู้แบบงูงูปลาปลา มักจะให้ลูกค้ายื่นมือ ขวา และพยากรณ์ โดยใช้มือขวา หรือซ้ายมือเดียว จากสถิติพบว่า ในโลกของเรามีผู้ถนัดซ้ายคิดเป็นสัดส่วน 10 เปอร์เซ็นต์ ในสหราชอาณาจักร หรืออังกฤษ ที่ซึ่งมีต้นกำเนิด วิชาดูลายมือสมัยใหม่ โดยท่านอาจารย์ ไคโร ซึ่งเป็นแม่แบบแห่งการดูลายมือ และได้เขียนหนังสือที่เกี่ยวกับวิชาเรื่องลายมือลายเล่ม พบว่า 13 เปอร์เซ็นต์ ของชาวอังกฤษ ถนัดซ้าย ในสมัยโบราณชาวยุโรปเชื่อว่าคนที่ถนัดซ้ายเป็นคนที่ผิดธรรมชาติ และจะเป็นคนโชคร้าย บางคนพยายามนั่งแล้วเอามือซ้ายไว้ด้านหลัง เพื่อจะฝึกให้ตนเองใช้มือขวา
การศึกษาสรุปออกมาได้ว่า ฝ่ามือทั้งสองข้างมีผลต่อสมองทั้งซีกซ้ายและซีกขวา และที่น่าสนใจคือ สมองทั้งสองซีกทำงานแตกต่างกันออกไป สมองซีกซ้ายซึ่งบังคับมือทางด้านขวา ทำงานที่มีสาระหนักๆ เช่น
พวก ตรรกวิทยา การเขียน การอ่าน พวกคณิตศาสตร์ อาชีพของพวกถนัดขวาคือวิศวกร นักบัญชี พูดง่ายๆ คือเรื่องที่เกี่ยวกับ การทำ หรือความจริง
ส่วนสมองซีกขวานั้น ควบคุมการทำงานของมือทางด้านซ้าย ใช้ทำงานกับสิ่งที่ละเอียดอ่อนและมีจินตนาการสูง เช่น งานที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ งานศิลปะ คนที่ใช้มือซ้ายจะเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูง หากสังเกตให้ดีพวกที่ถนัดซ้ายจะมีพรสวรรค์บางอย่าง อัจริยะทางศิลปะส่วนใหญ่ ถนัดซ้าย การทำงานของมือและสมองมีลักษณะไขว้กัน ดังนั้นการวิเคราะห์มือ มือขวาก็จะบอกถึง ภาวะวิสัย ของแต่ละคน สติสัมปชัญญะ และบทบาทของแต่ละคน ส่วนมือซ้ายก็จะแสดงถึง อัตวิสัย(สิ่งที่เก็บส่วนภายในใจ)

วันศุกร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2551

เส้นชีวิต Line of Life




เส้นชีวิต เป็นตัวแทนของพลังในการกระตือรือร้น หรือการกระตุ้นในการดำเนินชีวิต เส้นนี้จะบอกถึงสุขภาพ การเลี้ยงดู เป็นห้วงต่างๆ ของช่วงชีวิต เป็นเส้นหลัก ที่สำคัญในจำนวน สามเส้นบนมือและเส้นชีวิตนี้ จะแสดงคุณภาพชีวิตมากกว่า ความยืนยาวของชีวิต

ตำแหน่งของเส้นชีวิต

ตำแหน่งของเส้นชีวิต เส้นชีวิตจะเริ่มจากด้านข้างของฝ่ามือใกล้นิ้วหัวแม่มือ ประมาณครึ่งทางระหว่างฐานนิ้วมือ จากจุดเริ่มต้นนี้ เส้นจะตีวงกว้าง ออกมาไปถึงกลางฝ่ามือ หรือตีวงกว่างออกไปตามรูปมือของอุ้งมือ

จุดเริ่มต้น ของเส้นชีวิต

ถ้าเส้นชีวิตและเส้นสมองออกมาจากจุดเดียวกัน แสดงให้เห็นว่าผู้นั้นมีความระมัดระวัง และใช้ชีวิตในแบบพอดี ถ้าเส้นทั้งมีจุดเริ่มต้นแยกห่างจากกัน ยิ่งมีความกว้างเท่าใด จะแสดงให้เห็นถึงความหุนหันพลันแล่น อารมณ์ หรืออาจเรียกได้ว่าคนที่ เส้นสมองและเส้นชีวิต แยกจากกัน เป็นคนที่มีลักษณะชอบเสี่ยงและรักการผจญภัย เป็นคนบ้าบิ่น เวลาทำอะไรก็มักจะทุ่มเทไปจนหมดตัว ก่อนจะมาคำนึงถึงผลได้ผลเสีย

เรื่องการเริ่มต้นของจุดเริ่มต้นนี้ ควรอยู่ประมาณ ครึ่งทางระหว่าง ฐานนิ้วชี้และนิ้วหัวแม่มือ ถ้ายิ่งการเริ่มต้นของเส้นชีวิตสูงมากเท่าไหร่ แสดงถึงความทะเยอทะยานของบุคลผู้นั้น ยิ่งสูงมาก ก็อาจจะหยิ่งลำพองไม่สนใจใครเลย

หากการเริ่มต้น ของเส้นชีวิตเกิดต่ำ มักแสดงถึงการขาดความมั่นใจใน ตัวเอง และแสดงถึงความไม่มั่นคงในการดำเนิน ชีวิต

การวิเคราะห์ลักษณะมือ 1




เมื่อไรก็ตามที่คุณถามว่าการวิเคราะห์ลักษณะมือเป็นเช่นไร คำตอบก็คือ การดูหมอด้วยลายมือนั่นเอง การดูลักษณะลายมือมีความสลับซับซ้อน อาจเรียกว่าคุณเป็นเช่นดังนักสืบ ที่ต้องหาร่องรอยอาชญากรรม สำหรับผมแล้วลายมือ เปรียบดัง ศิลปะแขนงหนึ่ง



เหมือนการดูรูปภาพ คุณว่าศิลปิน กับคนธรรมดาทั่วไป มองรูปรูปหนึ่งต่าง กันไหม แน่นอน มีความแตกต่างกัน ภาพบางภาพให้ความหมายและอารมณ์ ที่ลุ่มลึก และสื่อถึงหลายอย่าง การสังเกตุ สัมผัส รู้สึก ต้องใช้ผัสสะ ทั้งหลายในการเข้าถึง



ขั้นตอนในการพิจรณาเรื่องมือ



อันดับแรกก็คือ ลักษณะรูปร่าง ของฝ่ามือ นิ้วมือ เล็บ สีผิว หรือแม้แต่ อุณหมูมิในร่างกาย ตำราจากต่างประเทศ เน้นหนัก ถึงองค์ประกอบพื้นฐานเหล่านี้ อาจเรียกได้ว่ามากว่า ลายเส้นเสียอีก ส่วนหัตศาตร์ไทย เน้นเรื่องลายเส้นบนฝ่ามือ มากกว่า ลักษณะที่ได้กล่าวมาข้างต้น



ขั้นตอนต่อมาพิจารณาถึงเครื่องหมายบนผิวหนัง และนำรายละเอียดเหล่านี้ไปพิรณาประกอบกับ ข้อมูลในชั้นแรก ในปัจจุบันการดูรอยพิมพ์นิ้วมือ และรูปแบบมือทั้งหมด ซึ่งเกิดจากเส้นลายผิวหนังว่า DERMATOGLYPHICS หรือ ศาตร์ว่าด้วยหนังมือ


นอกจากนี้ ท่าทางของฝ่ามือ และระยะห่างระหว่างนิ้ว ล้วนเป็นสิ่งที่เราต้องพิจารณา ในปัจุบันเป็นที่ยอมรับกันโดยกว้างขวาง ว่าทางทางของนิ้วมือ และระยะห่างระหว่างนิ้ว ล้วนแต่บ่งบอกถึงลักษณะพิเศษ และบุคลิกภาพของเจ้าของมือนั้นๆ
ท้ายสุดนี้ มาถึงขั้นพิจรณาลายมือ หรือเส้นที่เกิดบนมือ ไม่ว่าจะเป็นทิศทาง แนวการโค้ง ความยาว ลักษณะเฉพาะของเส้น โดยใช้หลักเกณฑ์เหล่านี้ในการเปรียบเทียบ ลักษณะส่วนตัวของแต่ละบุคคล ก็จะปรากฎเด่นชัดยิ่งขึ้น


ขั้นตอนหรือหลักเกณฑ์ในการวิเคราะห์มือมีดังต่อไปนี้
  1. รูปร่างของฝ่ามือ (เล็บ สีผิว ลักษณะของผิวหนัง )
  2. ลักษณะทางลายของผิวหนัง (ลายนิ้วมือ . รูปแบบบนผิวหนัง)
  3. ท่าทางหรือตำแหน่ง (ลักษณะท่าทางของนิ้วมือ และฝ่ามือ
  4. เส้นลายมือ (ทิศทาง และโครงสร้าง )




วันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ดูดวงฟรี กับอาจารย์เต่าครับ

วิธีการถามดวง
1.คลิกเข้าไปใน ไอคอน แสดงความคิดเห็น
2.เขียนคำถาม ใส่โคดที่เห็น
3. คลิกเผยแพร่ข้อความ ไม่จำเป็นต้องใส่ข้อมูลส่วนตัว

ชะตาบนฝ่ามือ




ลายมือเปรียบเสมือนสัญลักษณ์

บ่งบอกให้รู้ว่า ชะตาชีวิต จะเป็นอย่างไร ในการดำรงชีวิตอยู่ ขณะที่ดำรงชีวิตอยู่ มีการสร้างกรรม (มีการกระทำ) คือสิ่งที่ดีบ้างไม่ดีบ้าง (คือทำดีบ้าง ทำชั่วบ้าง) และหลายสิ่งหลายอย่างกับสภาพแวดล้อมโดยสมเหตุสมผลหรือไม่สมเหตุสมผล เรียกว่า "สร้างกรรม" เมื่อได้สร้างกรรมไปแล้ว ก็จะเป็นลายแทง คือสัญลักษณ์ ปรากฏบนฝ่ามือ เรียกว่า "ลายมือ" ลายมือนี้แหละเป็นเครื่องบ่งบอก ชะตาชีวิต ดังนั้น ชีวิตของคนเรา จะดีหรือไม่ดี ขึ้นอยู่กับ การสร้างกรรมเป็นจุดเริ่มต้น แต่เราสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตที่ไม่ดีได้ โดยอาศัยสร้างกรรมที่ดี อดทนต่ออุปสรรคที่มาขวางกั้น และใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก ทำในสิ่งที่สมเหตุสมผล เมื่อทำได้เช่นนี้แล้ว ลายมือที่บ่งบอกว่าไม่ดี ก็จะกลับกลาย เป็นลายมือที่ดีได้......

ดูดวง ลายมือ

หลักในการดูดวงด้วยลายมือ
1. ดูลักษณะเนินต่างๆ บนฝ่ามือ ซึ่งมี 7 เนิน คือ
1.1 เนินพฤหัส (ใต้นิ้วชี้)
1.2 เนินเสาร์ (ใต้นิ้วนางกลาง)
1.3 เนินอาทิตย์ (ใต้นิ้วนาง)
1.4 เนินพุธ (ใต้นิ้วก้อย)
1.5 เนินอังคารต่ำ (ใต้นิ้วหัวแม่มือ) เนินอังคารสูง (ใต้เนินอังคารต่ำลงมาจนถึงข้อมือ)
1.6 เนินจันทร์ (ใต้เส้นเนินอังคารสูงลงมา)
1.7 เนินเกตุ (อยู่กึ่งกลางฝ่ามือ)

2. ดูลักษณะเส้นสำคัญ 3 เส้น ที่ทุกคนมีมาตั้งแต่เกิด คือ
2.1 เส้นชีวิต เริ่มจากระหว่างง่ามนิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้ยาวทอดลงมากลางฝ่ามือ
2.2 เส้นสมอง เริ่มแห่งเดียวกันกับเส้นชีวิต
2.3 เส้นจิตใจ เริ่มจากไหนไม่แน่ แล้วแต่บางคน บางคนมียาวเหยียดจากเนินพฤหัสไปจนถึงเนินพุธ
3. ดูลักษณะเส้นเสริม ซึ่งบางคนมี แต่ไม่ชัดเจน ขาดบ้าง ยาวบ้าง บางคนไม่มี ได้แก่
3.1 เส้นช่วยชีวิต อยู่ใกล้เส้นชีวิต
3.2 เส้นเกียรติยศ อยู่ใต้เนินอาทิตย์
3.3 เส้นวาสนา อยู่ใต้เนินเสาร์
3.4 เส้นสมรรถภาพหรือเส้นอัจฉริยะ ขวางจากกลางฝ่ามือไปสู่เนินพุธ

ถ้าจะดูอดีต ให้ดูมือซ้าย ถ้าจะดูปัจจุบัน-อนาคต ให้ดูมือขวา หรือคนที่ถนัดมือไหนก็ให้ถือเอามือข้างนั้นเป็นสำคัญในการทำนายปัจจุบันและอนาคต
การดูลายมือนั้นควรดูทั้ง 2 ข้าง ถ้าลายมือทั้ง 2 ข้างนั้นเหมือนกัน ก็จะเป็นการยืนยันได้อย่างชัดเจนในการทำนาย แต่ถ้าไม่เหมือนกัน เช่น ลายมือข้างหนึ่งบอกว่า ดี ส่วนลายมืออีกข้างหนึ่งบอกว่าไม่ดี เมื่อเกิดการขัดแย้งกันเช่นนี้ ก็ขอให้เรา ใช้หลักการพิจารณาอุปนิสัย การปฏิบัติตัว เข้าไปตัดสิน คำทำนายจึงจะชัดเจน เช่น ถ้าเราปฏิบัติตัวไม่ดี ลายมือข้างที่ไม่ดี ก็จะกุมชะตาชีวิตของเรา แต่ถ้าหากปฏิบัติตัวดี ลายมือข้างที่ดี ก็จะกุมชะตาชีวิตของเรา ดังนั้น....ลายมือสามารถเปลี่ยนแปลงได้ มันขึ้นอยู่กับสภาพจิตใจ และการปฏิบัติตัว ต่อตนเองและผู้อื่น
* เพื่อความแม่นยำ ควรตรวจดูทั้งมือซ้ายและมือขวาประกอบกัน

ดูดวง พยากรณ์ หมอดู

ดูดวง
สวัสดีครับ ผม วันนี้เป็นวันแรก ที่ผมได้สร้างบล็อคส่วนตัวขึ้นมา บล็อคนี้ ผมตั้งใจว่าจะ เป็นที่สำหรับ ไว้ให้คนที่มีปัญหาชีวิตเข้ามาปรึกษา ด้วยผมเป็นหมอดู ดูดวงคนมามากมาย ผมพบว่า หมอดูก็ทำนายส่งไปวันวัน หวังเพียงแต่
ค่าดูดวงเท่านั้น ผมไม่อยากเป็นหมอดูแบบนั้น ชีวิตผมเมื่อก่อนที่จะหันมาสนใจในศาตร์ด้านการพยากรณ์
ผมก็เหมือนกับทุกๆ ท่านที่ พึ่งหมอดู เมื่อก้าวเท้าเข้ามาในวงการนี้ ก็ไม่อยากให้ใครต้องมาเป็นเหมือนตัวเอง
ที่เมื่อพบหมอดู เขาก็ไม่สามารถให้คำปรึกษาและการแก้ปัญหาต่างๆ ได้ ผมจึงได้ศึกษาศาตร์ด้านอื่น และ
หาแนวในการทำนายทายทักให้แก่ตัวเอง ผมพบว่าผมมีความถนัด ในเรืองการทำนาย ที่เกี่ยวกับความรัก
ชีวิตคู่ และครอบครับ
เมื่อท่านเข้ามาใน เวปแห่งนี้ ผมหวังว่ามันจะมีประโยชน์แก่ท่านทั้งหลายไม่มากก็น้อย และยินดีที่จะมีคำพยากณ์ที่ดี แก่ท่าน

ดวงดีดอทคอม เวปใหม่